รู้จักกับอัลกอริทึม Algorithm ของ Google ในการทำ SEO เพื่อการทำอันดับที่ดีในหน้าค้นหา

การทำอันดับในหน้าแสดงผลการค้นหา หรือ Search Engine Result page (เสิร์ชเอ็นจิ้น รีเซ้า เพจ) การค้นหาตาม Keyword (คีย์เวิร์ด) ใดๆก็ตามที่หน้าค้นหาของ Google เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการให้มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของตัวเองมากขึ้น หรือที่ที่เรียกว่า การทำ SEO (เอสอีโอ) หรือ Search Engine Optimization (เสิร์ชเอนจิ้น ออพติไมซ์เซชั่น) ก่อนที่จะทำได้นั้นต้องทำความเข้าใจ และรู้จักหลักการทำงานของ Google กันก่อน
การทำงานเพื่อจัดอันดับหน้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อจัดอันดับ Search Engine Result page เมื่อมีคนพิมพ์คำค้นหาลงไปใน Google (กูเกิล) นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
ส่วนที่ 1 เก็บข้อมูลในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ Google มีโปรแกรมที่คอยทำหน้าที่เหมือนแมงมุม หรือ เรียกว่า Google Spider ที่จะคอยไต่ไปตามเว็บต่างๆคอยเก็บเรียบเรียงเนื้อหา เพื่อแสดงเมื่อมีการค้นหาจากหน้า Search Engine (เสิร์ชเอนจิน) ของ Google
ส่วนที่ 2 แสดงผลการค้นหา ตามความสอดคล้องของคำค้นหา Algorithm (อัลกอริทึม) ที่ทำหน้าที่ในการจัดอันดับในหน้า Search Engine Result page เมื่อมีการพิมพ์คำค้นหาลงไป ซึ่งเงื่อนไขในการจัดอันดับการค้นหา Google ไม่เปิดเผยว่าใช้อะไรเป็นปัจจัย ในการจัดอันดับแต่ Google ได้จัดทำ “คู่มือเริ่มต้น SEO” ว่าควรจัดทำหน้าเว็บไซต์อย่างไรให้ง่ายสำหรับการเก็บข้อมูล และแสดงผลการค้นหาที่สอดคล้องกับ “คำค้นหา” สิ่งที่ Google ให้ความสำคัญ จนต้องสร้างโปรแกรมสำหรับคัดกรองเพื่อจัดอันดับ หรือเรียกโปรแกรมเหล่านี้ว่า Algorithm เพราะ Google ใช้หลักการจัดอันดับของการค้นหา คือ กระบวนการ ลำดับขั้นตอนการทำงาน รวมไปถึงกระบวนการในการประมวลผลที่จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจโดยนำหลักเหตุผลตรรกศาตร์ และทางคณิตศาสตร์ มาช่วยเหลือในการเลือกหาวิธีการ หรือขั้นตอนการดำเนินงานที่รวดเร็ว แปลให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ชุดคำสั่งที่ไว้ใช้ในการช่วยตัดสินใจในการทำงาน
Algorithm ที่สำคัญของ Google ในการจัดอันดับ มีดังนี้
1. Panda Algorithm (แพนด้า อัลกอริทึม) – ให้ความสำคัญกับเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ (On Page SEO)
Panda Algorithm จะคอยตรวจสอบและจัดอันดับหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ด้วยเงื่อนไขว่าเนื้อหาในหน้าเว็บนั้นๆ เป็นเนื้อหาที่ สอดคล้องกับคำค้นหาที่พิมพ์ลงไปใน Google ข้อมูล หรือที่นัก SEO มักเรียกว่า On page SEO ซึ่งอัลกอริทึมตัวนี้จะใช้เป็นกระบวนการสำหรับการค้นหา คัดกรองบทความที่มีความเป็น Contents Farm (เนื้อหาไร้คุณภาพ ซ้ำๆกับเว็บไซต์อื่น) ออกจากดัชนี (Index) ของ Google หรือลดอันดับให้แสดงผลท้ายๆของผลการค้นหา
2. Penguin Algorithm (แพนกวิน อัลกอริทึม) – ให้ความสำคัญกับลิงก์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์ภายนอก (Off Page SEO)
Penguin Algorithm เป็นอัลกอริทึมทำหน้าที่ตรวจสอบ และคัดกรองลิงก์เชื่อมโยงมาที่เว็บไซต์นั้นๆ หรือ Back link ว่ามีการสร้าง Link ที่เป็นธรรมชาติหรือไม่ หรือมีการจงใจสร้างลิงก์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่นๆมากเกินไปเพื่อทำอันดับอย่างจงใจ Back link ถือว่าเป็นปัจจัยที่มีสำคัญอย่างมาก โดยให้คะแนนจาก Link คุณภาพ ที่มาจากเว็บไซต์คุณภาพ ลิงก์ที่เป็น Text link (ลิงก์ที่เป็นอักษรที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์)
3. Caffeine Algorithm (คาเฟอิน อัลกอริทึม) – ตรวจหาเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ที่สดใหม่ และอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ
Caffeine Algorithm เป็นอัลกอริทีมที่ให้ความสำคัญกับความถี่ในการอัพเดทเนื้อหาของเว็บไซต์ และถูกนำมาใช้สำหรับการค้นหา SEO บนมือถือ ดังนั้นส่งผลให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสดใหม่ มีการอัพเดทบ่อยๆ ถูกดึงมาแสดงผลในการค้นหาของ google บ่อยขึ้นตามความถี่ในการอัพเดท ทำให้อันดับใน Google มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตลอดทั้งวัน ซึ่งจะคอยเกาะกระแส Trend ของระบบข่าวสารตามเว็บ Social ต่างๆได้ดีเพราะมีการอัพเดทข้อมูลอย่างบ่อยๆนั้นเอง
4. Hummingbird Algorithm (ฮัมมิ่งเบิร์ด อัลกอริทึม) – โปรแกรมค้นหา และจัดอันดับด้วยเสียง
Google Hummingbird Algorithm คือ อัลกอริทีมเทคโนโลยีใหม่ที่มาพลิกวงการการค้นหาแบบเดิมๆกันเลยทีเดียว เพราะ Hummingbird อัลกอริทึมนั้นสามารถรวบรวมสถิติการค้นหาใหม่ในรูปแบบเสียง ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากพวกอุปกรณ์ Tablet และ Smartphone จากนั้นจะนำข้อมูลเสียงเหล่านี้แปลออกมาเป็นคำศัพท์และเก็บลงเป็นสถิติการค้นหาเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ สิ่งทีกำลังนิยมค้นหาอยู่ในปัจจุบัน ในเมื่อ Hummingbird สามารถทำการค้นหาข้อมูลด้วยเสียงได้และสามารถจัดทำ Index ด้วยเสียงได้เช่นกันดังนั้นการที่เจ้าของเว็บไซต์จะมีข้อมูล Contents ที่เป็นข้อมูลแบบเสียงเพิ่มเข้ามาใน Website ก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการค้นหา SEO เข้าไปนั้นเอง
ทางบริษัท เอ็ม.ดี ซอฟต์ มีบริการดูแลเว็บไซต์ และหากใครที่ต้องการให้เว็บไซต์มีความสามารถที่มากกว่าเว็บไซต์ทั่วๆไปก็มีบริการพัฒนาโปรแกรมบนเว็บ PHP ซึ่งสามารถที่จะสอบถามเกี่ยวกับบริการเพิ่มเติมได้ที่ สอบถามข้อมูลบริการ หรือโทร 08-1619-8579 ค่ะ
พัฒนาโปรแกรมบนเว็บ PHP บริการพัฒนา Joomla Extension พัฒนาและปรับแต่งเว็บบอร์ด