เลือกจ้างบริษัทพัฒนาระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ ระบบ CRM ซีอาร์เอ็ม อย่างไรดี

ก่อนที่จะพิจารณาจ้างบริษัทในการพัฒนา ระบบการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ ระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) ที่เหมาะกับองค์กรของคุณ คุณจะต้องเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงและประโยชน์ที่คุณจะได้รับหลังจากที่ลงมือปฏิบัติระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) แล้ว เพราะว่าเมื่อเริ่มลงมือปฏิบัติแล้ว สิ่งนี้จะกระทบกับเกือบทุกคนในองค์กร การตัดสินใจวางแผนและคัดเลือกระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) ก่อนเริ่มลงมือปฎิบัติจึงมีความสำคัญชอย่างยิ่ง ซึ่งวันนี้ บริษัทเอ็ม.ดี.ซอฟต์ จำกัด ก็มีลำดับขั้นตอนสิ่งที่จะต้องพิจารณาในการลงมือปฏิบัติระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) มาฝากกันค่ะ
ขั้นตอนก่อนการตัดสินใจเลือกจ้างบริษัทพัฒนาระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) มีดังนี้
1. ซีอาร์เอ็มเป็นปรัชญา จะต้องนึกเสมอว่า CRM (ซีอาร์เอ็ม) ไม่ใช่เพียงสินค้า ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชั่นที่คุณติดตั้งแล้วจะประสบความสำเร็จได้ ความสำเร็จของคุณจะอยู่ที่กลยุทธ์ของการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้ามากกว่า เพียงแต่ว่าคุณใช้ความสามารถของซอฟต์แวร์ซีอาร์เอ็มเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ของคุณเท่านั้น ปรัชญาง่ายๆ ของ CRM (ซีอาร์เอ็ม)คือ “ให้ความสำคัญกับลูกค้าก่อนเสมอ” ความจริงก็ใกล้เคียงกับปรัชญาที่เราคุ้นหูในอดีตอย่าง “ลูกค้าต้องถูกเสมอ”
2. อย่าจำกัดขอบเขตของระบบซีอาร์เอ็มไว้เพียงแค่ลูกค้าเท่านั้น Customers หมายถึงลูกค้า ผู้ขาย พนักงาน พันธมิตร คำว่า CRM (ซีอาร์เอ็ม) ย่อมาจาก Customer Relationship Management ซึ่งความหมายของคำว่า Customer นั่นไม่ได้หมายถึงลูกค้าของคุณเท่านั้น มันอาจจะหมายถึง คู่ค้า คู่แข่ง พนักงานของคุณก็ได้ เช่น พนักงานของคุณก็มีสิทธิ์ที่จะใช้บริการของบริษัทได้เป็นต้น ดังนั้น อย่าจำกัดขอบเขตของระบบซีอาร์เอ็มไว้เพียงแค่ลูกค้าเท่านั้น ระบบจะต้องเปิดกว้างกับทุกๆ กลุ่มที่อาจจะเป็นลูกค้าของคุณได้
3. ระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) ไม่ใช่การบริหารการติดต่อเท่านั้น หลายๆ คนอาจจะสับสนว่าการติดตั้งระบบคอลล์เซ็นเตอร์ หรือมีระบบตอบรับอัตโนมัติที่ดีแล้วจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด หรือประสบความสำเร็จในการลงมือปฏิบัติระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) แล้วคุณคิดผิด เพราะความหมายของระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) นั้นกว้างกว่าเป็นเพียงแค่ช่องทางการติดต่อเท่านั้น เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหรือระบบตอบรับอัตโนมัติจะต้องมองเห็นภาพรวมของลูกค้าได้เหมือนๆ กับที่พนักงานขายที่ดูแลลูกค้ารายนั้นเลยทีเดียว การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าจึงจะประสบความสำเร็จได้ โดยหลักๆ แล้ว CRM (ซีอาร์เอ็ม) ก็จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการขาย การบริการและการตลาด โดยอาศัยช่องทางการติดต่อลูกค้าเป็นจุดสัมผัสกับลูกค้าเท่านั้น
4. Software (ซอฟต์แวร์) CRM (ซีอาร์เอ็ม) นั้นมีความสำคัญ ไม่ใช่ว่า Software (ซอฟต์แวร์) CRM (ซีอาร์เอ็ม) ทั้งหมดจะเหมือนกันหมด การเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับขนาดขององค์กรจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง องค์กรขนาดกลางก็จะเหมาะกับซอฟต์แวร์ซีอาร์เอ็มที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรขนาด กลางด้วย เหตุผลง่ายๆ คือ Software (ซอฟต์แวร์) CRM (ซีอาร์เอ็ม) ที่ออกแบบเพื่อองค์กรขนาดกลางจะต้องสามารถลงมือปฏิบัติ ในระยะเวลาที่สั้นด้วยงบประมาณที่จำกัด ซึ่งแตกต่างกับ Software (ซอฟต์แวร์) CRM (ซีอาร์เอ็ม) สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่จะมีความสลับซับ ซ้อนมากกว่าและใช้ระยะเวลาในการลงมือปฏิบัติที่นานกว่า
5. จงทุ่มเทกับการวางแผน หลังจากที่คุณเข้าใจในระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม)และความจำเป็นที่ต้องลงวางระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม)แล้ว การวางแผนลงมือปฏิบัตินั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หลายโครงการที่ล้มเหลวก็เพราะว่าไม่ได้ให้เวลากับการวางแผนที่เพียงพอ การคัดสรรบุคลากรในโครงการ CRM (ซีอาร์เอ็ม) ก็มีความสำคัญ หัวหน้าโครงการ ระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม)จะต้องเชื่อมั่นในซีอาร์เอ็มว่าสามารถทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิมได้ ช่วยให้บริษัทสร้างกำไร ขยายธุรกิจด้วยความพึงพอใจของลูกค้า ต้องสามารถประสานงานกับทุกหน่วยงานและลูกทีมเป็นอย่างดี ส่วนลูกทีมก็จะต้องมาจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันค้นหาความต้องการที่แท้จริงของระบบ CRM (ซีอาร์เอ็ม) โดยยึดกระบวนการขาย การบริการและการตลาดเป็นหลัก
ในส่วนของการพัฒนาโปรแกรมระบบ CRM สามารถติดต่อทางบริษัท เอ็ม.ดี. ซอฟต์ จำกัด ซึ่งทางเราจะให้ บริการระบบ CRM สำเร็จรูป และบริการพัฒนาระบบ CRM , ERP ระบบ บริหารงาน ภายในองค์กร พร้อมกับการอบรมการใช้งานครบวงจร โดยสามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ ติดต่อเรา หรือจะฝากคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่ เว็บบอร์ด
บทความโดย : https://www.mdsoft.co.th/ (บริษัทเอ็ม.ดี.ซอฟต์ จำกัด)
พัฒนาโปรแกรมบนเว็บ PHP บริการพัฒนา Joomla Extension พัฒนาและปรับแต่งเว็บบอร์ด phpBBพัฒนาระบบ CRM